top of page

5 แนวทางปฏิบัติที่สามารถใช้ได้จริงในการจัดการความเสี่ยงจากโรค COVID-19

รูปภาพนักเขียน: Peter BPeter B


ในสถานการณ์ปัจจุบัน ตอนที่คุณไปร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือแม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อ คุณคงจะได้สัมผัสกับมาตรการการตรวจวัดอุณหภูมิจากทางห้างร้าน รวมถึงคุณจะได้เห็นกับขวดสเปรย์แอลกอฮอล์ตามทางเข้าของห้างร้านพวกนั้นอยู่เสมอ ซึ่งคุณอาจจะมีความคิดว่าถ้าไม่แตะขวดพวกนั้นจะปลอดภัยกว่าไหม หรือคิดว่าการตรวจอุณหภูมินั้นจะช่วยได้แค่ไหนกัน ซึ่งบทความนี้เราจะมาพูดถึงความเป็นจริงว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ในธุรกิจร้านของเรา

ในตอนนี้ เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิจึงได้กลายเป็นเหมือนเครื่องตรวจจับโลหะในสนามบินที่จำเป็นจะต้องมีการสแกน หรือต้องผ่านการตรวจเครื่องนี้ตรวจทุกครั้งก่อนเข้าร้านไปแล้ว ซึ่งใน 2 ปีของการระบาด COVID-19 มีเพียงเคสเดียว ที่ตรวจพบจากการวัดอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งมันทำให้เราฉุกคิดได้ว่าการตรวจวัดอุณหภูมินั้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้จริงหรือ?

แล้วเราจะต้องทำอย่างไรเพื่อลดระดับความเสี่ยงให้อยู่ในจุดที่ต่ำพอที่จะสามารถให้บริการลูกค้าได้เท่ากับช่วงก่อนที่จะเกิดโรคระบาดนี้ขึ้นได้หละ ขั้นตอนมีดังต่อไปนี้

1. การระบายอากาศ


เนื่องจากไวรัส SARS-CoV-2 นั้นมีลักษณะเป็นละอองขนาดเล็ก ที่สามารถแพร่กระจายผ่าน ทางอากาศได้อย่างดี ซึ่งการแพร่กระจายสามารถเกิดได้จากผู้ติดเชื้อไปยังผู้คนในบริเวณใกล้เคียง ที่อยู่ในระยะของไอ การพูดคุย และการจามของผู้ติดเชื้อได้


การสวมใส่ผ้าปิดปากนั้นสามารถช่วยป้องกันเชื้อที่อยู่ในอากาศได้จริง แต่คุณไม่สามารถสวมใส่ผ้าปิดปากไว้ได้ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่นในขณะที่คุณ กำลังทานอาหาร เป็นต้น ดังนั้นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่อยู่ในอากาศนั้นสามารถลดลงได้ โดยการเพิ่มระบบการระบายอากาศระหว่างที่นั่งของลูกค้าทุกคน ซึ่งตรงนี้จะสามารถลดเชื้อไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศได้ การลงทุนในจุดนี้เพื่อแลกกับความปลอดภัย นับว่าน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการเลยทีเดียว

เคยมีกรณีการติดเชื้อที่เกิดจากการที่มีผู้ติดเชื้อนั่งอยู่ทาง 'ต้นลม' และมีลูกค้าที่นั่งอยู่ทางฝั่ง 'ปลายลม' ของร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าที่นั่งอยู่ทางปลายลมของช่องระบายอากาศได้รับเชื้อจากผู้ติดเชื้อ ซึ่งในกรณีนี้จะเห็นได้ชัดถึงระบบการจัดวางที่นั่ง และระบบการระบายอากาศที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นผู้ประกอบการทุกคนควรจะวางแผนผังที่นั่งของร้าน ที่สัมพันธ์กับการทิศทางการถ่ายเทระบายของอากาศให้ดี ซึ่งระบบการหมุนเวียน หรือระบบระบายอากาศที่ดีควรสามารถทำได้ดังนี้

  • หากคุณสามารถเปลี่ยนทิศทางการหมุนเวียนของอากาศจากเพดานสู่พื้น ไปเป็นจากพื้นสู่เพดานแทนจะดีกว่าไหม?

  • การจัดตำแหน่งโต๊ะรับประทานอาหารที่มีประสิทธิภาพ โดยคำนวณจากทิศทางต้นลม และปลายลมให้ดี

  • เพิ่มเครื่องกรองอากาศแบบ HEPA ที่สามารถช่วยกรองเชื้อไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศได้



2. ฉากกั้น

การสร้างฉากกั้นที่สูงมากพอ จะสามารถช่วยแยกกลุ่มลูกค้า ของแต่ละโต๊ะให้ไม่ต้องสัมผัสกันและกันได้ ซึ่งจะสามารถช่วยป้องกันการแพร่กระจายจากโต๊ะข้างเคียง และยังสามารถช่วยเพิ่มจำนวนการเข้า ใช้บริการในร้านตามที่กฎหมายอนุญาตได้ โดยการจำกัดการนั่งที่โต๊ะเฉพาะกลุ่มครอบครัวเท่านั้น การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยลดการแพร่กระจายระหว่างกลุ่มได้



3. เครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศคุณภาพดีที่มีแผ่นกรอง PM 2.5 HEPA จะสามารถช่วยดักจับละอองต่างๆที่ลอยอยู่ในอากาศได้ ตัวกรองไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกำจัดอนุภาคไวรัส แต่สามารถกำจัดละอองในอากาศที่มีไวรัสได้ และคุณจะต้องดูข้อจำกัดของเครื่องฟอกอากาศว่าเครื่องนึงสามารถฟอกอากาศได้มากน้อยแค่ไหน และจะต้องใช้ปริมาณเครื่องฟอกอากาศเท่าไหร่ จึงจะสามารถครอบคลุมอากาศทั่วทั้งร้านได้อย่างเพียงพอ การจัดการในเรื่องของเครื่องฟอกอากาศจะสามารถช่วยลดระดับการปนเปื้อนในอากาศ และช่วยสร้าง ความมั่นใจให้กับลูกค้าได้


4. อ่างล้างมือ และเครื่องเป่าแห้ง

พนักงานและลูกค้าจำเป็นต้องล้างมืออย่างทั่วถึง และเป่าให้แห้งเพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจาย เครื่องเป่ามือแบบใช้ลมอุ่นเป็นเพียงวิธีที่จะทำให้มือแห้งก่อนที่คนจะนำมือไปเช็ดที่เสื้อผ้าของตัวเองได้ ยกเว้นเครื่องเป่ามือในบางรุ่นที่ต้องใช้เวลาในการเป่า ซึ่งใช้เวลานานเกินไปทำให้คนบางคนไม่รอที่จะเป่าจนแห้ง และนำมือที่เปียกไปเช็ดที่เสื้อผ้าของตนเองซึ่งนั่นไม่ได้ช่วยให้ไวรัสในอากาศลดลงแต่อย่างใด นอกจากนี้ อย่างที่เรารู้กันดีว่าการแพร่กระจายของเชื้อโรคนั้นสามารถแพร่ได้ในอากาศ การที่จะเป่าลมไปรอบๆ ห้องน้ำนั้นจะเป็นวิธีที่ถูกต้องหรือ? ดังนั้นเปลี่ยนจากการใช้เครื่องเป่ามือ เป็นการจัดหากระดาษเช็ดมือแบบใช้แล้วทิ้ง ควบคู่ไปกับเครื่องจ่ายสบู่ที่คอยเติมสบู่ไว้ให้เต็มอยู่เสมอจึงเป็นมาตรการด้านความปลอดภัยที่เรียบง่าย และยังสามารถใช้งานได้จริง


5. การทำให้หน้ากากอนามัยเป็นส่วนหนึ่งของชุดยูนิฟอร์ม

การใส่หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารอยู่แล้ว เนื่องจากก่อนมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั่นก็มีเชื้อไวรัสประเภทอื่นๆ ที่สามารถปะปนไปกับอาหารได้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าแล้วนั้น หน้ากากอนามัยจึงควรเป็นส่วนหนึ่งของยูนิฟอร์ม ซึ่งทางร้านอาหารเองควรตั้งกฎในการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาการให้บริการลูกค้า รวมถึงอาจจะออกแบบเครื่องแบบพนักงานของแบรนด์คุณโดยมีหน้ากากอนามัยเป็นส่วนหนึ่งของชุด ก็นับเป็นไอเดียที่ดี และมีความปลอดภัย ซึ่งในส่วนนี้จะสามารถเพิ่มภาพลักษณ์ และความประทับใจของลูกค้าให้แก่แบรนด์ของคุณแน่นอน






ดู 12 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

The One Minute Audit

ความเสี่ยงจากการตรวจสอบความปลอดภัยทางด้านอาหารในหลายๆครั้งนั้น เป็นเพราะการตรวจสอบนั้นมีรายละเอียดที่มากมาย และมีเฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้านควา...

Bình luận


.

bottom of page